สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 ก.พ.) หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรอง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 85.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะทำการจำหน่ายน้ำมัน 26 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำมันในคลังอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ก่อนหน้านี้ กระทรวงได้พิจารณาที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันในปีงบประมาณ 2566 หลังจากทำการระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในปี 2565 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันลดช่วงลบ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 6.5% ในเดือนธ.ค. และเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยนักวิเคราะห์คาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในปี 2566 ขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากการเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการน้ำมัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย