สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 3% หลุดระดับ 76 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 19.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 2.53 ดอลลาร์ หรือ 3.22% สู่ระดับ 75.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
โกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50%
ด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกระทบจากการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะทำการระบายน้ำมัน 26 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำมันในคลังอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ก่อนหน้านี้ กระทรวงได้พิจารณาที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันในปีงบประมาณ 2566 หลังจากทำการระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในปี 2565 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส