สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (10 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมถึงจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว และจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 76.68 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 3.8% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 82.78 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลงเกือบ 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้
นักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาน้ำมันหลังจากที่ราคาร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา
การอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยหนุนแรงซื้อสัญญาน้ำมันด้วย โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.68% สู่ระดับ 104.5913
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอุปสงค์พลังงานที่เพิ่มขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง แต่ชะลอตัวจากระดับ 504,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4%