สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันอังคาร (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า วิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 3.47 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 71.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3.32 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 77.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI และสัญญาน้ำมันเบรนท์ ต่างก็ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2565 และต่างก็ร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปีนี้
นักลงทุนกังวลว่าการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) หรือ SB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภาคธนาคารและเศรษฐกิจสหรัฐ โดยความกังวลดังกล่าวยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และหน่วยงานของรัฐบาลทั่วโลกได้ให้คำมั่นว่าจะควบคุมวิกฤตการณ์ดังกล่าวไม่ให้ลุกลามจนสร้างความเสียหายต่อระบบธนาคารก็ตาม
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐ จาก "มีเสถียรภาพ" สู่ "เชิงลบ" เพื่อสะท้อนถึงภาวะเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วในภาวะแวดล้อมของการดำเนินงาน หลังเกิดเหตุการณ์ลูกค้าแห่ถอนเงินฝากในซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์, ซิลเวอร์เกท แบงก์ และซิกเนเจอร์ แบงก์
นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา