สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (20 มี.ค.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน หลังจากราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นกว่า 300 จุด ขานรับข่าวธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ธนาคารยูบีเอสได้ตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยให้เครดิต สวิสสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ทางการเงิน
หลังมีข่าวการทำข้อตกลงดังกล่าวไม่นาน เฟดได้ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางแคนาดา, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า ตลาดน้ำมันในขณะนี้ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทาน แต่ถูกขับเคลื่อนโดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ หลังจากในการประชุมโอเปกพลัสเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ที่ประชุมได้ตกลงที่จะปรับลดเป้าหมายการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงปลายปี 2566