สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (21 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกันวันที่ 2 ขานรับข่าวธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 69.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 75.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร หลังจากธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยให้เครดิต สวิส สามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ทางการเงิน
ขณะที่ธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีท 11 แห่ง ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธ (22 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ตามเวลาไทย ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของเฟดในการรับมือกับวิกฤตการณ์ในระบบธนาคาร และเฟดจะยังคงให้ความสำคัญกับการสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย