สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (28 มี.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากข่าวอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 73.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 78.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากอิรักสั่งระงับการส่งออกน้ำมันราว 450,000 บาร์เรล/วันจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกี หลังจากคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการยืนยันว่าการส่งออกน้ำมันจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิรัก
นักวิเคราะห์ของบาร์เคลยส์กล่าวว่า หากปัญหาการส่งออกน้ำมันจากเคอร์ดิสถานยืดเยื้อไปจนถึงช่วงปลายปี บาร์เคลย์สก็จะปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์สำหรับปี 2566 ขึ้นอีก 3 ดอลลาร์ สู่ระดับ 92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังจากธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส เข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ขณะเดียวกันการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากหน่วยงานวิจัยของบริษัทไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม คอร์ป คาดการณ์ว่า ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 6.2% สู่ระดับ 540 ล้านตัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล