สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (10 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 96 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 79.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 84.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับกระทบของการที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดแตะระดับสูงสุด 5.50-5.75% ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
"ไม่เพียงแต่ปัจจัยตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเงินเฟ้อสูงจะทำให้เฟดไม่มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เราเห็นว่าการที่เงินเฟ้ออยู่ในภาวะแข็งแกร่งเกินไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลข CPI ในสัปดาห์นี้ที่อาจดีดตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง" ซิตี้กรุ๊ประบุ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.47% แตะที่ 102.5736 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธที่ 12 เม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพุธนี้