สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (20 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.36% ปิดที่ 77.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 81.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง โดยหลักฐานล่าสุดคือตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
ขณะที่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐประสบภาวะชะงักงันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจ้างงานชะลอตัวลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานฉลับล่าสุดนี้แตกต่างจากฉบับที่มีการเปิดเผยในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งแม้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล