สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (28 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไล่ซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.70% ปิดที่ 76.78 ดอลลาร์/บาร์เรล และบวก 1.5% ในเดือนเม.ย. แต่ลดลง 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.49% ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย.
นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นในวันศุกร์ก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์
นายวลาดิเมียร์ เซอร์นอฟ นักวิเคราะห์ของบริษัทเอฟเอ็กซ์ เอ็มไพร์ซึ่งเป็นบริษัทบริการข้อมูลตลาดระบุว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงดีดตัวขึ้นท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์เสี่ยง
ส่วนนายฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์ของเดอะ ไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ประบุว่า ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากข่าวเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ของสหรัฐ และมีการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น และการผลิตลดลง
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐรายวันลดลงสู่ระดับ 12.48 ล้านบาร์เรลในเดือนก.พ. จากระดับ 12.54 ล้านบาร์เรลในเดือนม.ค. ขณะที่ความต้องการน้ำมันปิโตรเลียมของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 19.99 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเอ็กซอน โมบิล และบริษัทเชฟรอน คอร์ปอเรชัน รายงานผลกำไรไตรมาสแรกปีนี้ดีเกินคาด แม้ราคาน้ำมันลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวก็ตาม