สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงเกือบ 5% ใกล้หลุดระดับ 68 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 22.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 3.45 ดอลลาร์ หรือ 4.81% สู่ระดับ 68.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 300,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคารของสหรัฐ รวมทั้งการที่สหรัฐอาจเผชิญการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อนเส้นตายดังกล่าว
ตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่า เฟด, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 49.2 ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 51.4 จากระดับ 51.9 ในเดือนมี.ค.
ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของจีน โดยเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2565
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดในโลก และมีการนำเข้าน้ำมันสูงที่สุดในโลก