สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (9 พ.ค.) หลังจากมีรายงานรัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมเต็มคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR)
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 77.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น ตลาดถูกกดดันจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 8.5% สู่ระดับ 2.9542 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 14.8% ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนเม.ย.ลดลง 7.9% สู่ระดับ 2.0521 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ลดลง 1.4% ในเดือนมี.ค.
แต่สัญญามันดิบดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมเต็มคลัง SPR ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สั่งระบายน้ำมันจำนวนมากออกจากคลัง SPR
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท The Price Futures Group กล่าวว่า "มีรายงานว่าคณะบริหารของปธน.ไบเดนวางแผนที่จะซื้อน้ำมันกลับสู่คลัง SPR ทันทีที่งานซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ เราคาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะเติมเต็มน้ำมันในคลัง SPR ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เมื่อพิจารณาจากปริมาณน้ำมันในคลังซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันตามฤดูกาลมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และการผลิตน้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จาก EIA ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย