สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 74 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 21.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.04% สู่ระดับ 74.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 12.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 800,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากคำกล่าวของเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ซึ่งระบุว่า เขาจะสร้างความเจ็บปวดต่อนักเก็งกำไรที่ได้ขายชอร์ตในตลาด โดยคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงต่อไป
นักลงทุนมองว่าคำกล่าวของเจ้าชายบิน ซัลมาน เป็นการบ่งชี้ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 4 มิ.ย.
"นักเก็งกำไรมีให้เห็นในทุกตลาด ก่อนหน้านี้ผมเคยเตือนพวกเขาให้ระวังจะเจ็บตัว และก็เจ็บตัวจริงๆในเดือนเม.ย. ผมคงไม่ต้องหงายไพ่ในมือ เพราะผมไม่ได้เป็นผู้เล่นไพ่โป๊กเกอร์ แต่ผมแค่จะขอเตือนว่า ระวังตัวให้ดี" เจ้าชายบิน ซัลมานกล่าว
คำเตือนของเจ้าชายบิน ซัลมานมีขึ้น ก่อนที่กลุ่มโอเปกพลัสจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 4 มิ.ย.
ทั้งนี้ นักเก็งกำไรได้ขายชอร์ตในตลาด โดยคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงต่อไป แต่หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากการที่โอเปกพลัสทำการปรับลดกำลังการผลิต ก็จะทำให้นักเก็งกำไรเหล่านี้ต้องปิดการซื้อขายในตลาดในราคาที่ขาดทุน
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียและผู้ผลิตน้ำมันบางรายจากกลุ่มโอเปกพลัสสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจในเดือนเม.ย. ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังจากทรุดตัวลงก่อนหน้านั้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารในสหรัฐและยุโรป