สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) หลังจากรัสเซียประกาศขวางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.38% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 2.68% ปิดที่ 76.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียไม่สนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 มิ.ย. เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว สมาชิกบางประเทศของโอเปกพลัสเพิ่งประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ
ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนเม.ย. ซาอุดีอาระเบียประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 500,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่โอเปกพลัสยืนยันตามมติในเดือนต.ค.2565 ในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐเป็นเชิงลบ และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ AAA เนื่องจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
"การให้เครดิตพินิจเป็นเชิงลบสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกทางการเมืองที่ทำให้สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ แม้ว่าขณะนี้ใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. หรือ "X-date" ฟิทช์เชื่อว่าความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ จะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากสหรัฐล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อน X-date และผลที่ตามมาก็คือรัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามพันธกรณีทางกฎหมาย" ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์