สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (21 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของงดอลลาร์ และการแสดงมุมมองเศรษฐกิจเชิงบวกของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากภาวะอุปทานข้าวโพดตึงตัวในสหรัฐ โดยข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอธานอลและเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.61% ปิดที่ 77.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.44% สู่ระดับ 102.0816 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในระหว่างการประชุมที่สิงคโปร์เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง โดยอุตสาหกรรมภาคการผลิตและภาคบริการต่างก็ฟื้นตัว ขณะที่การลงทุน การอุปโภคบริโภค การส่งออก และการจ้างงาน ก็อยู่ในทิศทางที่ดีและมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
โรเบิร์ต ยอว์เกอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทมิซูโฮกล่าวว่า ตลาดยังได้แรงหนุนจากการแสดงความเห็นเชิงบวกของรองนายกรัฐมนตรีจีน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้นเหนือค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ปีนี้
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สหรัฐเผชิญกับภาวะอุปทานข้าวโพดตึงตัว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้สัญญาข้าวโพดในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT พุ่งขึ้น 5.2% โดยข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอธานอลและเชื้อเพลิง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาไทย