สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 69 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 18.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 0.87 ดอลลาร์ หรือ 1.20% สู่ระดับ 68.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาดในการประชุมวานนี้ โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%
นอกจากนี้ ธนาคารกลางนอร์เวย์และสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
นายพาวเวลยังกล่าวว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย