สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 71 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 22.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 0.99 ดอลลาร์ หรือ 1.38% สู่ระดับ 70.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับผลกระทบจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล
ภาคเอกชนสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกือบ 500,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ถือเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565
ทั้งนี้ ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 373,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนมิ.ย.