สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 2% ใกล้หลุดระดับ 75 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้
ณ เวลา 21.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.12% สู่ระดับ 75.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว หลังมีรายงานการปิดบ่อน้ำมันในลิเบีย ท่ามกลางความไม่สงบในประเทศ ขณะที่บริษัทเชลล์ระงับการขนถ่ายน้ำมันในไนจีเรีย เนื่องจากมีการรั่วไหลในสถานีกักเก็บน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด
ธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ออกรายงานระบุว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หากอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีการขยายตัวในปีนี้ตามการคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีการขยายตัว 2.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีการขยายตัว 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 104.25 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567