สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งรายงานที่ว่าจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนมิ.ย.ในปริมาณ 12.67 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 45.3% จากระดับ 8.72 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของราคาน้ำมันในระหว่างวัน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.59% แตะที่ 100.8764 เมื่อคืนนี้