ณ เวลา 18.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 0.38 ดอลลาร์ หรือ -0.46% สู่ระดับ 81.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทีน่า เต็ง นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า "ราคาน้ำมันอาจเผชิญกับความเสี่ยงในการปรับฐาน เนื่องจากตลาดอาจมีแรงซื้อมากเกินไปในเดือนที่ผ่านมา"
ตัวเลขล่าสุดจากสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็น 20.78 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2562 โพลสำรวจของรอยเตอร์ยังประเมินด้วยว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐคาดว่าจะลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกเหนือจากความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นแล้ว การประชุมของ OPEC+ ในวันศุกร์นี้ (4 ส.ค.) คาดว่าซาอุดีอาระเบียจะตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันลงโดยสมัครใจไปจนถึงเดือนก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันตึงตัวมากขึ้น
ในการประชุมเมื่อวันจันทร์ (31 ก.ค.) นายเบอร์นาร์ด ลูนีย์ ซีอีโอบริษัทบีพี คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ส่วน OPEC+ จะเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการผลิตน้ำมัน และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐจะลดลง
"นี่หมายความว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะแข็งแกร่งในอีกหลายเดือนและหลายปีข้างหน้า"