สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 80 ดอลลาร์ในวันพุธ (2 ส.ค.) หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน และบดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.88 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 83.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐ ลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุถึงสถานะการคลังของสหรัฐที่มีแนวโน้มถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า และภาระหนี้สินที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 17 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยกเลิกข้อเสนอซื้อน้ำมัน 6 ล้านบาร์เรลเข้าสู่คลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากซาอุดีอาระเบียลดกำลังการผลิตลง
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะยืนตามมติเดือนต.ค. 2565 ในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นเดือนก.ย. จากเดิมที่กำหนดไว้ในสิ้นเดือนส.ค.