สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (4 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดของปีนี้ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันศุกร์ ซึ่งจะลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปีหน้า
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 86.24 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
JMMC จัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันศุกร์ โดยที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนมิ.ย. โดยมติในที่ประชุม JMMC ดังกล่าว จะส่งผลให้โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
ส่วนการประชุมของ JMMC ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 4 ต.ค.ปีนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะตลาดน้ำมันตึงตัว จากการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่รัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมัน 9 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. และจะเป็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.