สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลุดระดับ 82 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้
ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.27% สู่ระดับ 81.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก หลังมีรายงานว่ายูเครนได้ส่งโดรนโจมตีศูนย์ส่งออกน้ำมันของรัสเซียในทะเลดำ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันศุกร์ ขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส โดยที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนมิ.ย.
มติในที่ประชุม JMMC ดังกล่าว ส่งผลให้โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัว จากการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่รัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นเดือนก.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมัน 9 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. และจะเป็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนก.ค.
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจตัดสินใจขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจต่อไปอีก รวมทั้งปรับลดกำลังการผลิตมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.