สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (16 ส.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 79.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 83.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยข้อมูลล่าสุดของจีนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ส.ค.) บ่งชี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ต่างก็ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนส่งผลให้ธนาคารรายใหญ่พากันปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2566 โดยเจพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.8% ขณะที่ธนาคารบาร์เคลย์สปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีนลงสู่ระดับ 4.5% และธนาคารมิซูโฮ ไฟแนนเชียล ปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีนลงสู่ระดับ 5%
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล