สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดีเซลในยุโรปปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมัน WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์เป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 83.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากอินไซต์ส โกลบอล (Insights Global) ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาจากเนเธอร์แลนด์รายงานว่า สต็อกน้ำมันดีเซลในโรงกลั่นและศูนย์จัดเก็บ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) ปรับตัวลง 3% ในสัปดาห์ล่าสุด
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.55% แตะที่ระดับ 103.9863 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
จิโอวานี สตาโนโว นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสกล่าวว่า การปรับตัวลงของสต็อกน้ำมันดีเซลในยุโรป และการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี เป็นปัจจัยหนุนสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดบวก แต่การซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน และคาดว่าจะยังคงผันผวนต่อไปจนกว่านักลงทุนจะเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้ เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย โดยการประชุมในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy"