สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบีย จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดเดือนส.ค. สัญญาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้น 2.2% และสัญญาน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งต่างก็ปรับตัวขึ้นเป็นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาการปรับลดกังวลการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือนต.ค. เพิ่มเติมจากที่กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตอยู่ก่อนแล้ว
ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 10.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์