สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 ก.ย.) และแตะระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว ซึ่งได้ช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ที่อ่อนแอของจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 87.51 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 90.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. และปรับตัวขึ้น 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 88 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว โดยซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่รัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจลดลงเพียง 5.6 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันก็ยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยจีนเปิดเผยว่า การส่งออกลดลง 8.8% ในเดือนส.ค. ขณะที่การนำเข้าหดตัว 7.3%