ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดร่วงหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้ออาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ระดับ 89.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเช้าวันนี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
ทั้งนี้ การคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ในรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่กรอบ 5.50%-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดยังส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน