สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมัน WTI ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข่าวรัสเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันทั่วโลกเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 89.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้น ขานรับข่าวรัสเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นการชั่วคราวให้กับทุกประเทศทั่วโลก โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงภายในรัสเซีย
แต่ราคาน้ำมันอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การที่เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธ แต่ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปีหน้า
จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital LLC ในนิวยอร์กกล่าวว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่อาจสนับสนุนให้เฟดตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย