สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (25 ก.ย.) หลังจากรัสเซียประกาศผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 89.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 93.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงพลังงานรัสเซียออกแถลงการณ์อนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันก่อนหน้านี้ โดยยกเลิกคำสั่งระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเรือ และน้ำมันดีเซลที่มีสารซัลเฟอร์ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี รัสเซียยังคงคำสั่งระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลที่มีคุณภาพสูงต่อทุกประเทศในโลก ยกเว้นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่ เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงภายในรัสเซีย
ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากการที่เฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% แต่ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปีหน้า
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 105.999 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันพุธ