สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (29 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 90.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้, เพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 28.5% ในไตรมาส 3/2566
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 95.31 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้, เพิ่มขึ้น 9.7% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 27.3% ในไตรมาส 3/2566
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Rapidan Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานเปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบียจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมากกว่า 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ แต่ระบุว่ารัฐบาลจะทบทวนนโยบายดังกล่าวทุกเดือน โดยอาจมีการปรับการผลิตทั้งเพิ่มขึ้นหรือลดลง
Rapidan Group ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดภาวะน้ำมันตึงตัวจนราคาพุ่งขึ้นมากเกินไป ซึ่งเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของโอเปกพลัสในวันพุธหน้า (4 ต.ค.) แต่ก็ไม่มีแนวโน้มที่โอเปกพลัสจะปรับนโยบายการผลิตน้ำมันในปัจจุบัน เนื่องจากผลผลิตที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นนั้นได้หนุนราคาน้ำมันทะยานขึ้น