สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดร่วงลงเกือบ 2% หลุดระดับ 83 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมทั้งสต็อกน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน
ณ เวลา 18.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 1.54 ดอลลาร์ หรือ 1.83% สู่ระดับ 82.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 จากระดับ 50.5 ในเดือนส.ค.
ดัชนี PMI ใกล้หลุดระดับ 50 ซึ่งหากต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะบ่งชี้ภาวะหดตัวในภาคบริการของสหรัฐ
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 89,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน