ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการสู้รบอันดุเดือดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ณ เวลา 06.48 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 4.29% แตะที่ระดับ 86.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเปิดฉากขึ้น เมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล ขณะที่อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทางด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารเอาคืนกลุ่มฮามาสอย่างสาสม
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ของอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการวางแผนโจมตีอิสราเอลในครั้งนี้ โดยหากมีการยืนยันว่าอิหร่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ก็อาจจะทำให้สหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงการห้ามไม่ให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก