สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (19 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะส่งผลให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 89.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 92.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรงและบานปลาย โดยนายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลได้สั่งการให้กองกำลังทหารอิสราเอลปิดล้อมฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าอิสราเอลจะทำการโจมตีภาคพื้นดินเพื่อถอนรากถอนโคนกลุ่มฮามาสในไม่ช้านี้
ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวกับนายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งเดินทางเยือนอิสราเอลเมื่อวานนี้ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะไม่สิ้นสุดลงในเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ แม้ว่ารัฐบาลอิสราเอลยืนยันว่าจะไม่ปิดกั้นความช่วยเหลือที่ส่งเข้าสู่ฉนวนกาซาผ่านทางประเทศอียิปต์ ตราบใดที่ความช่วยเหลือเหล่านี้เป็นเพียงอาหารและยารักษาโรค แต่อิสราเอลจะยังคงปิดกั้นเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือที่ส่งผ่านทางอิสราเอลเข้าไปยังฉนวนกาซา ตราบใดที่ตัวประกันของอิสราเอลยังไม่ถูกปล่อยตัวกลับมา และความช่วยเหลือใด ๆ ก็ตามที่ถูกส่งถึงกลุ่มฮามาสจะถูกกองทัพอิสราเอลขัดขวางอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากการที่สหรัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา หลังจากที่รัฐบาลเวเนซุเอลาลงนามในข้อตกลงกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในปีหน้า