สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (24 ต.ค.) หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี อังกฤษ และยูโรโซน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 83.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.76 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 88.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค.ของยูโรโซน เยอรมนี และอังกฤษ ต่างก็ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว โดยเฉพาะดัชนี PMI ในเยอรมนีที่หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และดัชนี PMI ของอังกฤษหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.69% แตะที่ระดับ 106.2679 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดพลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลพร้อมเปิดฉากใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่แน่นอน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย