สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวในวันอังคาร (14 พ.ย.) หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันจันทร์ (13 พ.ย.)
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 82.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปิดทรงตัว ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ขยับลงเล็กน้อย หลังจากมีสัญญาณว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกลาง โดยล่าสุดประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้แสดงความเชื่อว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวในฉนวนกาซา
แหล่งข่าวระบุว่า ทางการอิสราเอลเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 100 คน ขณะที่กองพลน้อยอัล-กัสซัม (al-Qassam) ของกลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์ระบุว่า กำลังมีการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกันที่เป็นเด็กและผู้หญิงจำนวน 70 คนเพื่อแลกกับการที่อิสราเอลหยุดยิงเป็นเวลา 5 วัน และแลกกับนักโทษปาเลสไตน์จำนวนหนึ่งที่ถูกคุมขังในอิสราเอล
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน โดยโอเปกปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น 2.46 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.44 ล้านบาร์เรล/วัน
ส่วน IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้สู่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล/วัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน และปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2567 สู่ระดับ 930,000 บาร์เรล/วัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 880,000 บาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 26 พ.ย. หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย