สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวเหนือระดับ 74 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังราคาดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
ณ เวลา 21.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2.02% สู่ระดับ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปิดตลาดวานนี้ทรุดตัวลงเกือบ 5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.6% ในเดือนต.ค. และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และบ่งชี้การชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ
นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของยอดขายรถยนต์และเฟอร์นิเจอร์
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีนลดลง 0.38% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังทรุดตัวลงอย่างรุนแรง แม้รัฐบาลพยายามที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ในตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล และการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 26 พ.ย. หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567