สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (29 พ.ย.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 77.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 83.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
แมตต์ สมิช นักวิเคราะห์จากบริษัท Kpler กล่าวว่า ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากข่าวสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสสามารถบรรลุฉันทามติในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น ก่อนที่การประชุมโอเปกพลัสเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของปี 2567 จะมีขึ้นในวันนี้ (30 พ.ย.) โดยการประชุมในครั้งนี้จะจัดผ่านระบบออนไลน์
ข่าวดังกล่าวช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า พายุที่พัดถล่มภูมิภาคทะเลดำได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียและคาซัคสถานในปริมาณมากถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจทำให้อุปทานน้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัว