สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานที่ชะลอตัวลงในสหรัฐและจีน รวมทั้งการผลิตน้ำมันในสหรัฐที่พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 69.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 74.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในสหรัฐและจีนได้ฉุดสัญญาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนหรือนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอยู่ที่ระดับกว่า 13 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐพุ่งขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนพ.ย.ของจีนลดลง 9.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจอ่อนแอลง และสต็อกน้ำมันในประเทศอยู่ในระดับสูง
นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนมากขึ้น หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารจีน 8 แห่งลงสู่เชิงลบ จากมีเสถียรภาพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่มูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและระดับหนี้สินของประเทศ
นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของฮ่องกงลงสู่เชิงลบ จากมีเสถียรภาพ โดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างฮ่องกงและจีนมีความเชื่อมโยงกันอย่างมาก ซึ่งแนวโน้มที่อ่อนแอลงของจีนแผ่นดินใหญ่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกงด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการซื้อขายนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งกว่า 1% ขานรับข่าวรัสเซียจับมือซาอุดีอาระเบียในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันในตลาด ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า โอเปกพลัสพร้อมที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในไตรมาสแรกของปี 2567 เพื่อขจัดการเก็งกำไรและความผันผวนในตลาด