สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) โดยภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา ท่ามกลางความกังวลที่ว่าอุปทานน้ำมันดิบอาจอยู่ในภาวะล้นตลาดและอุปสงค์เชื้อเพลิงอาจชะลอตัวลงในปีหน้า
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 71.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 76.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
แม้ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปี 2567 แต่มติดังกล่าวเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจของประเทศสมาชิก แทนที่จะเป็นการกำหนดโควตาอย่างเป็นทางการ จึงทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าสมาชิกโอเปกพลัสจะปฏิบัติตามมติดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ ผลการประชุมโอเปกพลัสไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีหน้าได้
นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะยังคงผันผวนและไร้ทิศทาง จนกว่าตลาดจะเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมติการประชุมของบรรดาสมาชิกโอเปกพลัส
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนปรับตัวลงอีกในเดือนพ.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืดที่รุนแรงขึ้น
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ และรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพุธที่ 13 ธ.ค.