ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% ในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากข่าวรัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน และข่าวเรือบรรทุกสินค้าถูกโจมตีโดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
ณ เวลา 09.40 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.91% แตะที่ 72.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทางการรัสเซียประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (17 ธ.ค.) ว่า รัสเซียจะปรับลดการส่งออกน้ำมัน 50,000 บาร์เรลต่อวันหรือมากกว่านั้นในเดือนธ.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่รัสเซียได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันโลกอาจจะเผชิญภาวะติดขัดด้านอุปทาน หลังจากบริษัทเดินเรือรายใหญ่หลายแห่งประกาศระงับการใช้เส้นทางในทะเลแดง เนื่องจากภัยคุกคามจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
เมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติเดนมาร์ก และฮาแพค-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) บริษัทเดินเรือชั้นนำของเยอรมนี ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab-el-Mandeb Strait) ในทะเลแดงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้าของบริษัทเผชิญภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
นอกจากนี้ บริษัทขนส่งรายใหญ่ระดับโลกอีก 2 ราย ได้แก่ บริษัทเมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ของอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ และบริษัทซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ของฝรั่งเศส ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงในวันเสาร์ที่ 16 ธ.ค.
ทั้งนี้ กลุ่มฮูตีระบุว่า การโจมตีเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกดดันให้อิสราเอลยุติการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีพื้นที่ทางภาคใต้ของอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการใช้ปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรง