สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบจากการที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนก่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวรัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 72.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 77.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทบีพี (BP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สัญชาติอังกฤษ ประกาศระงับการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงเมื่อวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
การดำเนินการของบีพี มีขึ้นหลังจากที่บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ของโลกหลายราย เช่น เมอส์ก (Maersk) ของเดนมาร์ก, ฮาแพค-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) ของเยอรมนี, เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ของอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ และซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ของฝรั่งเศส ต่างก็ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงก่อนหน้านี้
องค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ ประกาศจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลกระทบใด ๆ ที่จะมีต่อการเดินเรือผ่านคลองสุเอซ หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ทำการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ซึ่งส่งผลให้บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่พากันระงับการเดินเรือไปยังภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ คลองสุเอซเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อต่อระหว่างยุโรปและเอเชีย โดยการเดินเรือผ่านเส้นทางคลองสุเอซมีสัดส่วนประมาณ 15% ของการเดินเรือทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า รัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน 50,000 บาร์เรล/วันหรือมากกว่านั้นในเดือนธ.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่ให้คำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลก