สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (6 ก.พ.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากมีรายงานว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 73.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 78.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 290,000 บาร์เรล/วัน
แต่ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจจะมีการทำข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่า กาตาร์ได้รับ "คำตอบที่เป็นบวก" จากกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงพักรบกับอิสราเอลเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและนักโทษปาเลสไตน์
ทั้งนี้ นายอัล ธานีประกาศความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
ขณะที่นายบลิงเกนแสดงความเห็นว่า แม้ว่ายังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากเพื่อบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่สหรัฐเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวมีความเป็นไปได้ และมีความสำคัญ พร้อมกับกล่าวขอบคุณกาตาร์ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ.