ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 74 ดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ในตลาด
ณ เวลา 23.27 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. บวก 0.54 ดอลลาร์ หรือ 0.74% สู่ระดับ 73.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 140,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในปีนี้ ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 290,000 บาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันถูกกดดัน หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจจะมีการทำข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่า กาตาร์ได้รับ "คำตอบที่เป็นบวก" จากกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงพักรบกับอิสราเอลเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและนักโทษปาเลสไตน์
ทั้งนี้ นายอัล ธานีประกาศความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
ด้านนายบลิงเกนกล่าวว่า แม้ว่ายังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากเพื่อบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่สหรัฐเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวมีความเป็นไปได้ และมีความสำคัญ พร้อมกับกล่าวขอบคุณกาตาร์ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค