สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (9 ก.พ.) และปรับตัวขึ้นราว 6% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจากตะวันออกกลางและปัญหาด้านการผลิตซึ่งทำให้ตลาดน้ำมันกลั่นตึงตัว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 76.84 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 6.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 82.19ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 6.3% ในรอบสัปดาห์นี้เช่นกัน
ความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจากตะวันออกกลางได้ช่วยหนุนราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุน หลังจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาสเมื่อวันพุธ (7 ก.พ.)
กองกำลังอิสราเอลยังคงทำการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาในวันศุกร์ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีนั้น การทิ้งระเบิดใส่เมืองราฟาห์ซึ่งเป็นเมืองชายแดนทางภาคใต้นั้น ได้หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นราว 3%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลด้วย เนื่องจากการกลั่นน้ำมันที่ลดลงอย่างมากในสหรัฐทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัว