สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (14 ก.พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐเตือนว่า สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกภัยคุกคามด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 76.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 81.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลง หลังจากประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายข่าวกรองของสภาคองเกรสสหรัฐเตือนว่า สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกภัยคุกคามด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย โดยคำเตือนดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
ส่วนในระหว่างวัน ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนหลังจากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะขยายตัว 2.25 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 และ 1.85 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568
นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.6% และ 2.8% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ