สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (27 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกหลังสิ้นสุดไตรมาสแรก นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอย่างใกล้ชิด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 78.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 83.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในเร็ว ๆ นี้ โอเปกพลัสจะตัดสินใจว่าจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกหลังสิ้นสุดไตรมาสแรกหรือไม่ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า การลดกำลังการผลิตน้ำมันจะดำเนินต่อไปในไตรมาส 2 ก่อนที่โอเปกพลัสจะค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวในไตรมาส 3
สำหรับการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสนั้น เมื่อวันจันทร์ (26 ก.พ.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า อิสราเอลได้ตกลงที่จะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาในช่วงเทศกาลรอมฎอน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มี.ค. และคาดว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในวันที่ 4 มี.ค.
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสและเจ้าหน้าที่อิสราเอลได้แสดงความเห็นสวนทางถ้อยแถลงของปธน.ไบเดน โดยนายบาเซม นาอิม หัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า ฮามาสยังไม่ได้รับข้อเสนอหยุดยิงครั้งใหม่อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ที่มีการเจรจาทางอ้อมที่กรุงปารีสในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งจัดขึ้นโดยสหรัฐ อียิปต์ และกาตาร์ พร้อมกับระบุว่า ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐที่ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในวันที่ 4 มี.ค. เป็นเรื่องที่เร็วเกินไป และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ของอิสราเอล ซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า คำพูดของปธน.ไบเดนได้สร้างความประหลาดใจ และไม่ได้เกิดจากความร่วมมือกับรัฐบาลอิสราเอล ขณะที่ฮามาสยังคงมีเงื่อนไขที่เรียกร้องมากเกินไป