สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (12 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 81.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจาก EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 13.19 ล้านบาร์เรล/วัน จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 170,000 บาร์เรล/วัน
ทิม ซินเดอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Matador Economics กล่าวว่า ตลาดยังถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการคาดการณ์ก็ตาม
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.
เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.521 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มี.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้