สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่อ่อนแอลงในสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่าสหรัฐได้เสนอร่างมติต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงในฉนวนกาซา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 85.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 230.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่การจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินในสหรัฐนั้น ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 9 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า สหรัฐได้เสนอร่างมติต่อ UN เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะเปิดทางให้มีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 40 คนเพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายร้อยคนที่ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำอิสราเอล
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย