สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดช่วงบวก หลังสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ซบเซาในตลาด
ณ เวลา 23.59 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. บวก 0.36 ดอลลาร์ หรือ 0.43% สู่ระดับ 85.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 300,000 บาร์เรล
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 86 ดอลลาร์ในช่วงแรก ขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ทั้งนี้ JMMC มีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่ตลาดคาดการณ์
การคงนโยบายการผลิตดังกล่าว ส่งผลให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจของประเทศสมาชิก ขณะที่ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน
JMMC จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับการประชุมเต็มคณะของกลุ่มโอเปกพลัส
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการที่รัสเซียและยูเครนยังคงทำการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของแต่ละฝ่าย
ทั้งนี้ อิหร่านประกาศทำการตอบโต้ หลังอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากอิหร่านทำสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ก็จะทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามออกไปจนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในตลาด